ารดูแลสิ่งแวดล้อมในชุมชนนั้น บุคคลทุกคนในชุมชนและหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้อง จะต้องช่วยกันดูแล สำหรับสิ่งแวดล้อมในชุมชนที่ดี และการดูแล
ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมมีดังนี้

1. อาคารบ้านเรือนและอาคารที่ทำการต่างๆ ในชุมชนโดยเฉพาะ
ชุมชนในเมือง จะมีอาคารบ้านเรือนและอาคารที่ทำการต่างๆทั้งเป็นของเอกชน
และของทางราชการมากมาย สถานที่เหล่านี้ ผู้เป็นเจ้าของหรือผู้มีหน้าที่ดูแล
รับผิดชอบจะต้องคอยดูแลรักษาและปรับปรุงให้ถูกสุขลักษณะอยู่เสมอไม่ควร
ปล่อยให้เสื่อมโทรมสกปรกแลดูไม่งามตา ขั้นต้นควรทำให้สะอาด ขั้นต่อไป
อาจปรับปรุงทาสีและพัฒนาให้ดีขึ้น

2. ถนนหนทางในชุมชนและแม่น้ำลำคลอง ชุมชนส่วนใหญ่ ถนน
เข้าถึงแล้ว อาจเป็นถนนดีบ้างไม่ดีบ้างแล้วแต่งบประมาณ ชุมชนบางแห่ง
ก็อาจใช้การสัญจรทางน้ำ เมื่อมีการใช้ถนนใช้แม่น้ำลำคลอง ก็ควรจะช่วยกัน
ดูแลทำนุบำรุงรักษา สำหรับถนนหนทางนั้น ทางราชการคงต้องเข้ามาดูแล
ช่วยเหลือ ถ้าเกิดชำรุดไป แต่ถ้าเป็นแม่น้ำลำคลอง ก็จะเป็นปัญหาไม่มาก
เช่นการขุดลอกคูคลอง เมื่อมีผักตบชวาหรือสวะที่กีดขวางการจราจรทางน้ำ
ควรจะมีความร่วมมือ จากนักเรียนและชาวบ้านในชุมชนให้มาช่วยกันขุดลอก
คูคลอง เพื่อให้การสัญจรทางน้ำมีความสะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้การดูแล
ความสะอาดและการปลูกต้นไม้ในที่ว่างริมถนนก็จะทำให้ผู้สัญจรมีความสดชื่น

3. การกำจัดขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล ในแต่ละบ้านเรือนและในชุมชน
จะต้องกำจัดขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลให้ถูกสุขลักษณะ เพราะจะทำให้ชุมชน
มีความสะอาด มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและแสดงถึงความเจริญของชุมชน
นั้นด้วย นอกจากนี้ยังทำให้ชุมชนนั้น ปราศจากการระบาดของโรคภัยไข้เจ็บ
กลิ่นเหม็น ดังนั้นการกำจัดขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล จึงเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบที่สำคัญมากของชุมชนทุกแห่ง

4. แหล่งน้ำดื่มน้ำใช้  น้ำดื่มน้ำใช้ ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมนุษย์
ในการดำรงชีวิตชุมชนต่างๆ จึงควรจัดหาแหล่งน้ำดื่มน้ำใช็ อาจเป็นบ่อบาดาล
หรือแหล่งน้ำอื่นใดก็ได้ที่สะอาด พร้อมใช้ พร้อมดื่ม ถ้านักเรียนพบแหล่งน้ำดื่ม
น้ำใช้ไม่สะอาด ควรแจ้งให้ผู้ใหญ่หรือเจ้าหน้าที่รับผิดชอบทราบ และนักเรียน
ควรมีส่วนร่วมในการดูแลแหล่งน้ำดื่มน้ำใช้ โดยไม่เป็นผู้กระทำให้แหล่งน้ำ
ดังกล่าวสกปรก เช่นไม่ทิ้งสิ่งของลงในแหล่งน้ำดื่มน้ำใช้

5. การระบายน้ำ  ในการระบายน้ำควรระบายน้ำเสียหรือน้ำโสโครก
ไปด้วยกัน ควรมีการลอกท่อเมื่อใช่ได้ประมาณครึ่งปี ถึง1 ปี ถ้ามีเศษวัสดุ
โดยเฉพาะวัสดุก่อสร้างตกลงไปมากๆ จะทำให้ท่อระบายน้ำอุดตันหรืิอตื้นเขิน
ถ้าเป็นหมู่บ้านจัดสรรก็อาจรวมเงินกัน ว่าจ้างคนมาลอกท่อระบายน้ำ

6. ตลาดสด  เป็นแหล่งที่ประชากรในชุมชนมาซื้ออาหารเพื่อนำไปปรุง
และเป็นแหล่งรวมสิ่งสกปรกต่างๆ เพราะของสดหลายอย่างถ้าเหลือหรือทิ้งไว้
คืนเดียวอาจเน่าได้ ดังนั้นในแต่ละวัน เมื่อขายของเสร็จผู้ที่ขายของในตลาดสด
ต้องทำความสะอาดบริเวณแผงของตนให้สะอาด และควรมีการทำความสะอาด
สัปดาห์ละ1-2 ครั้ง เจ้าของตลาดสด ควรจัดการในเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษ

7. ร้านอาหาร  จะต้องดำเนินการให้ถูกหลักของ การสุขาภิบาลเพราะ
ถ้าไม่สะอาดอาจมีผลต่อสุขภาพของประชาชนที่มาใช้บริการได้ โดยเฉพาะ
เรื่องของโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร เจ้าของร้านอาหารจะต้องคำนึงถึงสุขภาพ
ของผู้บริโภคด้วย ถ้านักเรียนพบร้านอาหารที่ไม่สะอาดนักเรียนควรหลีกเลี่ยง
ไม่ไปใช้บริการในร้านดังกล่าว และหากจำเป็นต้องรับประทานอาหารนอกบ้าน
นักเรียนควรพิจารณาเลือกร้านอาหารที่มีป้ายรับรองความสะอาดจากหน่วยงาน
ทางราชการ เช่นป้าย“อาหารสะอาด รสชาติอร่อย(Clean food  Good Test) ”
หากนักเรียนพบว่าร้านอาหารในโรงเรียนไม่สะอาด นักเรียนควรมีการรวมตัวกัน
ในการจัดตั้งกลุ่มชมรม ในการรณรงค์ให้มี การปรับปรุงโรงอาหารให้ถูกหลัก
สุขาภิบาล และมีส่วนร่วมในการตรวจสอบความปลอดภัยในอาหาร เช่นการตรวจ
สารปนเปื้อนในอาหาร โดยใช้ชุดตรวจสอบอย่างง่ายๆของกระทรวงสาธารณสุข

8. การกำจัดเหตุรำคาญต่างๆ เช่น กลิ่นเหม็น เสียงดัง สัตว์นำโรค
เป็นต้น ซึ่งต้นเหตุมักจะมาจากผู้คนในชุมชนนั่นเองอาจเป็นกลิ่นเหม็นจาก
โรงงาน ตลาดสด กองขยะที่คนนำไปกองทิ้งรวมกันมากๆและอาจเป็นเสียงดัง
จากโรงงาน ร้านซ่อมรถ ร้านคาราโอเกะ ซึ่งบุคคลที่เป็นต้นเหตุดังกล่าว
ควรจะต้องเห็นแก๋ส่วนรวมไม่ทำความเดือดร้อนให้เกิดแก่ผู้อื่น หากนักเรียน
พบเห็นเหตุรำคาญ ควรหลีกเลี่ยงจากแหล่งดังกล่าว และมีส่วนร่วมใน
การป้องกันดูแล มิให้ผู้หนึ่งผู้ใดกระทำการที่จะก่อให้เกิดเหตุรำคาญดังกล่าวขึ้น
เช่น การทิ้งขยะในที่ ที่จัดให้ หากพบบุคคลหรือธุรกิจใดๆที่สร้างความเดือดร้อน
ให้ผู้อื่น นักเรียนควรปรึกษาผู้ใหญ่ เช่น พ่อ แม่่ ครูในการหาทางแก้ไข
ปัญหาอย่างเหมาะสม

9. สถานพักผ่อนหย่อนใจ  ชุนชนทั่วไป ควรตระหนักในเรื่องของการจัด
สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เช่น สวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น มุมพักผ่อน สนามกีฬา ซึ่งอาจขอความช่วยเหลือจากทางราชการหรือผู้มีจิตศรัทธาดำเนินการให้เกิดขึ้นเพื่อให้คนในชุมชนได้มาใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจหรือออกกำลังกาย