|
ข่าว ทางเพศของวัยรุ่น
หนุ่มสาวเชียงใหม่แห่ยึดสวนฯ'พลอดรัก'
[Update2ส.ค.2548]
ชาวเชียงใหม่สุดทนวัยรุ่นยึดสวนสาธารณะพลอดรักเล่นเซ็กส์ไม่เว้น แม้นักเรียนในเครื่องแบบใช้มุมมืด แมกไม้ และที่ลับตาคนกอดจูบลูบคลำย่ำยีวัฒนธรรมไทย หนักข้อถึงขนาดหลังสถานบันเทิงปิด
ย่องเข้ามาแอบเสพสมกันแบบไม่อายฟ้าดินแทนโรงแรมม่านรูด พนักงานทำความสะอาดสลด เก็บกวาดตอนเช้า เจอถุงยางใช้แล้วเกลื่อน
รองนายกฯ ยอมรับเรื่องจริง บอกพื้นที่กว้าง แต่เจ้าหน้าที่ดูแลตรวจตรามีแค่คนเดียว เลยดูแลไม่ทั่วถึง
สั่งเพิ่มเจ้าหน้าที่ และประสานสารวัตรนักเรียนมาเป็นหูเป็นตา แฉเมื่อ2ปีก่อนก็เคยเป็นข่าวมาแล้วแต่คล้อยหลังก็กลับมาโผล่อีก
วัยรุ่นเชียงใหม่ยึดสวนสาธารณะพลอดรักจนชาวบ้านทนไม่ได้ครั้งนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่1ส.ค.เดลินิวส์
ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน และผู้ปกครองหลายรายที่ทนเห็นขนบธรรมประเพณี และวัฒนธรรมอันดีงามของชาวเชียงใหม่และของชาติ
ถูกย่ำยีจากการกระทำของบรรดากลุ่มวัยรุ่นที่ยึด และเลียนแบบค่านิยมตะวันตกไม่ได้ ด้วยการยึดสวนสาธารณะ ซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจมาเป็นที่พลอดรักกันแบบไม่อายฟ้าดินแทน โดยไม่สนใจสายตาคนรอบข้าง เช่น ที่สวนสาธารณะหนองบวกหาด
สวนสาธารณะรุกขชาติ ฯลฯ หลังได้รับการร้องเรียนทีมข่าวเดลินิวส์
ได้เข้าไปตรวจสอบที่สวนสาธารณะหนองบวกหาด ซึ่งเปิดให้บริการแก่ประชาชนตั้งแต่เวลา
05.00น.-22.00น.ทุกวัน พบว่ากลุ่มวัยรุ่นชาย-หญิงจะเริ่มเข้ามาพลอดรักกันเป็นคู่
ตามเก้าอี้ไม้ และตามจุดต่าง ๆ ของสวนสาธารณะในช่วงหัวค่ำ
หรือบางทีก็แอบเข้ามาตอนที่ปิดบริการไปแล้ว มีทั้งมานั่งดื่มสุราร้องรำทำเพลงส่งเสียงดัง
พอเมาได้ที่ก็จะไปหามุมมืดหลบเร้นสายตาผู้คน กอดจูบลูบคลำกันอย่างไม่หวงเนื้อหวงตัว หรืออายฟ้าดินโดยวัน ๆหนึ่ง จะมีกลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้มาทำบัดสีกันมากกว่า10คู่บางคู่ถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์กันเลยทีเดียวโดยเฉพาะช่วงเวลา02.00น. หลังสถานบันเทิงปิดบริการ กลุ่มวัยรุ่นจะพากันมาเป็นคู่ๆ แอบเข้าไปในใช้สวนสาธารณะเสพสุขกันแทนโรงแรมม่านรูด
โดยไม่มีเจ้าหน้าที่หรือผู้เกี่ยวข้องห้ามปราม หรือบางครั้งก็ไม่รับรู้เรื่องบัดสีดังกล่าวที่กำลังขยายตัวกัดกินค่านิยมดีๆ
ของสังคมไทย แม่ค้ารายหนึ่งในย่านสวนสาธารณะ เล่าให้ฟังอย่างเหลืออดว่าในช่วงเย็นทุกวันจะมีพวกวัยรุ่น
และวัยกลางคน รวมทั้งพวกคนงานต่างด้าวชาวไทยใหญ่ หรือพม่า ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กในชุดนักเรียนมาแสดงความรักกันมีทั้งจูงมือจูงแขนชมสวนดอกไม้กัน
ให้อาหารปลากัน และมีบ้างคู่ถึงขนาดใช้มุมมืดแมกไม้ หรือที่ลับตากอดจูบหรือนอนกอดก่ายกันจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว
บางคู่หนีเรียนมาเที่ยวกันก็มีส่วนบางรายก็มาดื่มเหล้าดื่มเบียร์ พอเมาก็มีเรื่องชกต่อยกัน
เมื่อก่อนจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจ และจับส่งโรงเรียนแต่ปัจจุบันไม่เห็นมีมาตรวจแล้ว
ด้านนางแก้วใจ มะโนคำอายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่
7 หมู่ 10 ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด
จ.เชียงใหม่ พนักงานทำความสะอาดสวนสาธารณะหนองบวกหาด เปิดเผยว่า
ตอนเช้าก่อนเคารพธงชาติ จะมาเก็บกวาดทำความสะอาดสวนสาธารณะ และจะพบขวดเบียร์
ขวดเหล้า เศษถุงอาหาร ต่างๆ ทิ้งไว้เกลื่อนกราด และที่เห็นเป็นประจำตอนกลางคืนก็คือถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว
ในตอนกลางวันก็จะมีนักเรียน นักศึกษา หนีโรงเรียนมามั่วสุมพลอดรักกัน เมื่อก่อนยังมีคนมาคอยตรวจสอบจับกุม
แต่ตอนนี้ไม่เห็นมีมา และช่วงหลังนอกจากจะมีนักเรียน นักศึกษา
วัยรุ่นมามั่วสุมกันแล้ว ที่นี่ี้จะเป็นแหล่งมั่วสุมของชาวไทยใหญ่ และชาวพม่า
ที่มาทำงานในประเทศไทย บางทีหึงหวงหญิงสาวกัน ถึงขั้นลงไม้ลงมือวางมวยกัน ใจจริงอยากให้เจ้าหน้าที่มาช่วยกันดูแล
เพราะลำพังพนักงานในสวนสาธารณะดูแลได้ไม่หมด เพราะมีจำนวนมาก ขณะที่นายไท โรจน์รัตนจินดารองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่
ฝ่ายงานช่าง ผู้ดูแลด้านสวนสาธารณะ กล่าวว่า รับทราบถึงปัญหาดังกล่าวพอสมควร
โดยเฉพาะพวกที่แอบลักลอบเข้ามาพลอดรักกัน ซึ่งแต่เดิมทางเทศบาลมีพนักงานดูแลสวนประจำอยู่1คน แต่ก็ไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง เพราะสวนสาธารณกว้างขวางมาก
อีกทั้งมีมุมมืดหรือจุดลับตาอยู่มาก อย่างไรก็ดี ได้สั่งการให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล
จัดเวรยามออกเดินตรวจตราหากพบกลุ่มวัยรุ่นแอบเข้ามาตอนปิดทำการก็จะไล่ออกไปทันท ีนอกจากนี้จะประสานไปยังโรงเรียนรวมไปถึงสารวัตรนักเรียนให้หมั่นออกมาตรวจสอบ หากพบกลุ่มนักเรียนมาเที่ยว และทำตัวไม่เหมาะสม
หรือหนีเรียนมาเที่ยวจะจับส่งโรงเรียนและเชิญผู้ปกครองมาพบ และตักเตือนต่อไปทั้งนี้ ทีมข่าวเดลินิวส์เคยได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมบัดสีของกลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้มาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อ2ปีก่อน และเสนอข่าวจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลจัดการแต่ต่อมาเรื่องราวน่าเศร้าแบบนี้กลับโผล่ขึ้นมาในสังคมอีกครั้งเหมือนจะเรียกว่าปราบกันไม่หมดไม่สิ้นก็ได้
http://www.dailynews.co.th/each.asp?newsid=61413
|